วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

วิธียืดอายุแบตฯ โน๊ตบุ๊ค 6 ประการ

1.แบตเตอรี่ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นของโน๊ตบุ๊ค มือถือ ถ่านชาร์ต หรืออะไรก็แล้วแต่มันมีวันผลิต และจะเสื่อมลง
เรื่อยๆ เมื่อมีอายุนับจากวันผลิต ถึงแม้จะไม่ได้ใช้เลยก็ตาม ดังนั้น การเลือกซื้อของประเภทแบตเตอรี่ต้องดู
วันผลิตด้วยครับ  เพราะพ่อค้าบางท่านเอาของเก่ามาขาย ถึงแม้จะแกะกล่องมาใหม่ๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะ
"ใหม่" นะครับ พอใช้ไปสักพักก็จะเสื่อมเร็วมาก ก็ระมัดระวังกันด้วยครับ



2.แบตเตอรี่ โน๊ตบุ๊ค มีการจำกัดรอบของการชาร์ตครับ เช่น ถ้าเราชาร์ตเต็ม 100% แล้วใช้จนหมด(0%) ก็จะ
ถือว่า 1 รอบของการชาร์ต ซึ่งแบตเตอรี่ โน๊ตบุ๊ค มีการจำกัดเอาไว้ในจำนวนที่ผมไม่ทราบแน่ชัด แต่จาก
ประสบการณ์ อยู่ประมาณ 200 - 400 ครั้ง (ไม่ชัวร์) ดังนั้น วิธีการของผมก็คือ อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่โน๊ตบุ๊ค
ของท่าน ต่ำกว่า 50% จะดีที่สุด พอใกล้ๆ 50% ก็ให้ชาร์ตแบตทันทีครับ



3.แบตเตอรี่ โน๊ตบุ๊ค เสื่อมเพราะความร้อนครับ จะเห็นได้ว่าจะมีการขาย Cooler ที่ติดไว้ใต้ฐานของโน๊ตบุ๊ค
เพื่อทำหน้าที่ระบายอากาศร้อนออกจากตัวเครื่อง โดยโน๊ตบุ๊ครุ่นเก่าๆจะมีระบบระบายความร้อนได้ไม่ดีเท่าไหร่
ซึ่งจำเป็นต้องใช้มาก เพราะนอกจากความร้อนจะทำให้เครื่องทำงานได้แย่แล้ว ก็ทำให้แบตเตอรี่ ได้รับความ
ร้อนไปด้วย ทำให้แบตเสื่อมได้เร็ว  แต่ในปัจจุบันทางผู้ผลิตได้รับรู้ในจุดนี้แล้วครับ จึงพยายามออกแบบให้มี
การนำพื้นที่ ที่ร้อนอยู่ห่างจากแบตเตอรี่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งก็จะสามารถแก้ไขจุดนี้ได้



4.การเสียบที่ชาร์ต โน๊ตบุ๊คทิ้งไว้ ทำให้แบตเสื่อมได้ ? จริงๆแล้วจากประสบการณ์ส่วนตัวไม่เชื่อว่าเป็นเช่น
นั้น แต่เป็นผลทางอ้อมมากกว่าครับ คือ การเสียบที่ชาร์ตโน๊ตบุ๊คทิ้งไว้ ทำให้แบตเตอรี่เกิดความร้อนขึ้นได
และความร้อนก็จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้ไวขึ้นครับ



5."กลัวแบตเตอรี่ โน๊ตบุ๊ค เสื่อม ก็เลยเอาออกซะเลย" หลายๆคนเป็นแบบนี้จริงๆครับ คือ กลัวว่ามันจะเสื่อม
เวลาใช้ทำงานในที่ที่มีปลั๊กเสียบไฟฟ้าได้ ก็จะเอาแบตเตอรี่ออก แล้วเสียบเฉพาะสายชาร์ตเท่านั้น ซึ่งก็ทำ
งานได้เหมือนกัน (อย่าให้ใครไปเดินเตะปลั๊กจนหลุดละ) แต่ผมจะบอกเลยว่า... แบบนี้แบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คของ
ท่านจะเสื่อมไวมากๆเลยครับ(กรณีที่ทำเป็นนิสัย) เพราะแบตเตอรี่ประเภทนี้จะต้องถูกกระตุ้นไฟบ้าง และเป็น
ประจำจะดีครับ แต่ถ้าไม่ถูกกระตุ้นเอาซะเลย หรือนานๆชาร์ตที คุณจะได้มีโน๊ตบุ๊คแบบไม่มีแบตใช้งานแบบ
นี้ตลอดไปแน่นอน(เพราะแบตจะเสื่อมและใช้งานไม่ได้เลย)



6.ปัจจัยอื่นๆที่จะทำให้แบตเตอรี่ โน๊ตบุ๊ค เสื่อมได้ไวกว่าปกติ ได้แก่ การบำรุงรักษาโน๊ตบุ๊คของคุณเอง เช่น
การป้องกันการตกกระแทก แรงๆ หรือเบาๆก็ตามการเก็บรักษาในที่ชื้นๆที่มีฝุ่นเยอะๆ ลักษณะการใช้งาน เช่น
ใช้งานทีละนานๆ ข้ามวันข้ามคืน ตัวโน๊คบุ๊คดีไซค์ มีระบบระบายความร้อนที่ไม่ดีพอ การจัดวางตำแหน่ง
แบตเตอรี่ ทำให้แบตร้อนไว  ซึ่งจากที่กล่าวมาแล้ว มีทั้งที่เราสามารถแก้ไขได้ และแก้ไขไม่ได้ รวมอยู่ด้วย


ขอบคุณที่มา http://sasukrongkwang.com/index.php/how-to-use-computer-content/52-how-to-use-in-computer-and-internet/138-notebookbatterylife.html

วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ทำเป็นเล่นไป การเสียบปลั้กโน๊ตบุ๊คก็มีวิธีที่ถูกต้องอยู่นะ

ในช่วงแรกๆ ที่ผมใช้โน๊ตบุ๊คอาการเดียวกับหลายๆ ท่าน เวลาจะเสียบปลั๊กก็เสียบตัวอะแดปเตอร์เข้ากับตัวเครื่องก่อน (จริงๆ มันน่าจะถูกนะ) แล้วก็เอาปลั๊กอีกด้านไปเสียบกับเต้ารับของที่บ้าน หรือที่ทำงาน โดยหลักความเป็นจริงแล้ว มันจะควรจะทำแบบนี้ใช่มั้ย?



คิดว่าหลายคนคิดเหมือนผม ปัญหาที่ผมเจอเมื่อทำแบบนี้กับโน้ตบุ๊กแทบทุกรุ่นที่ ผ่านมา ก็คือมันมีไฟแลปออกมาจากตัวปลั๊ก เหมือนเกิดการสปาร์คขึ้น เสียบกี่ครั้งก็เกิดอาการแบบนี้ จนพาลคิดไปว่าพวกอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กมันไม่ค่อยดีมั้ง ผมก็หาวิธีแก้ไขบ้าง

เพื่อนหลายคนใช้วิธีเด็ดกว่านี้ครับ คือซื้อปลั๊กที่มีสวิทซ์เปิดปิดมาเลย วิธีการที่เขาทำก็คือ เสียบปลั๊กทุกๆ อย่างให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยเปิดสวิทซ์ที่ปลั๊ก เอ้ออ.. ไอเดียดีเนาะว่ามั้ย แต่จนแล้วจนรอด ผมเอ๊ะใจขึ้นมา เลยเปิดคู่มือโน้ตบุ๊กที่ผมเพิ่งได้มาใหม่ดู นั่งอ่านสักพัก ก็ถึง บ้างอ้อ จนได้ว่า สิ่งที่เราทำมานั้น ไม่ถูกต้องเลยครับ

มิน่า เสียบยี่ห้อไหน ก็ไฟแลบตะแลบแป๊บหมด.. พาลเอาใจหายว่าไฟจะช็อตได้

ต่อไปนี้ตั้งใจอ่านให้ดีดีนะครับ

ในคู่มือเขาบอกไว้ชัดเจนเลยครับว่า วิธีการเสียบปลั๊กอะแดปเตอร์ของโน้ตบุ๊คที่ถูกต้องก็คือ ให้เราเสียบปลั๊กเข้ากับเต้ารับที่บ้านหรือที่ทำงานก ่อนครับ จากนั้นค่อยเอาปลายอีกด้านที่เหลือมาเสียบเข้ากับโน้ตบุ๊คอันนี้คือวิธีที่ถูกต้อง

ผมเลยลองดูซะเลยครับ ปรากฏว่าอาการไฟแลบหรืออาการสปาร์คนั้นไม่มีเกิดขึ้น เลย โอ้! นี่แหละหนาาา..นิสัยไม่ชอบอ่านคู่มือ หลังจากนั้นมาผมก็พยายามแนะนำเพื่อนๆ ทุกคนที่เกิดอาการนี้ทั้งหมด ทุกรายแฮปปี้ดีแทคมากๆ ผมเชื่อว่าหลายคนยังไม่ทราบครับ ใครที่ทราบแล้วก็ฝากบอกต่อเพื่อนๆ ด้วยนะครับ จะได้เสียบปลั๊กอะแดปเตอร์ได้ถูกต้องเสียที ใครใช้โน้ตบุ๊คยู่ตอนนี้จะลองทำดูก็ได้นะครับ

ขอเพิ่มเติมด้วยว่า ใช้วิธีเดียวกันนี้กับ ทั้งมือถือ และ PDA ด้วย

ที่มา :: http://guru.sanook.com/8787/

การดูแลรักษา การใช้งาน notebook และวิธีแก้ปัญหา

>> ใช้งานโน้ตบุ๊กให้ถูกสถานที่

โน้ตบุ๊กควรใช้ในสถานที่ที่มีการถ่ายเทของอากาศที่ไห ลเวียนได้สะดวก และการวางโน้ตบุ๊กไม่ควรวางบนพื้นที่มีความนุ่ม เพราะจะทำให้ไปปิดบังช่องระบายความร้อนใต้เครื่องได้ มีผู้ใช้บางกลุ่มนิยมนำโน้ตบุ๊กไปใช้บนที่นอน ซึ่งไม่ควรทำ เพราะที่นอนมีความนุ่มเวลาวางโน้ตบุ๊กลงไป พื้นด้านล่างจะแนบชิดไปกับที่นอนทั้งหมด ไม่มีช่องระบายความร้อน ซึ่งอาจจะส่งผลให้โน้ตบุ๊กเกิดความร้อนสูง จนแฮงค์และไม่สามารถใช้งานได้ต่อไป นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้โน้ตบุ๊กในบริเวณที่มีฝ นตก หรือมีความชื้นสูงๆ เพราะจะส่งผลต่อ อุปกรณ์ต่างๆ ภายใน


>> การชาร์จแบตเตอรี่

ผู้ใช้ควรอ่านคำแนะนำในการชาร์จแบตเตอรี่ในคู่มือที่ มีมาให้ทุกครั้ง โดยเฉพาะการชาร์จไฟครั้งแรก ซึ่งจะต้องชาร์จนานกว่าปกติ หลังจากนั้นก็สามารถชาร์จไฟใหม่ได้ถึงแม้ว่าใช้งานแบ ตเตอรี่ยังไม่หมด มีผู้ใช้หลายท่านให้ข้อคิดเห็นว่า เวลาเสียบปลั๊กใช้งาน ซึ่งแบตเตอรี่เต็มแล้ว ไม่ควรจะใส่แบตเตอรี่เอาไว้ในเครื่อง เพราะจะทำให้ เกิดความร้อน และแบตเตอรี่เสื่อมเร็ว จริงๆ แล้วก็อาจจะเป็นไปได้ แต่ถ้าเรามองอีกมุมหนึ่ง การใส่แบตเตอรี่ค้างเอาไว้ขณะเสียบปลั๊กใช้งานก็เป็น การป้องกันเรื่องของไฟดับกะทันหันได้เช่นกัน เพราะถ้าเกิดไฟดับกระทันหัน จะส่งผลโดยตรงต่อฮาร์ดดิสก์ภายในเครื่อง ซึ่งอาจจะเสียหายได้ทันที โดยปกติแล้วแบตเตอรี่ก็มีอายุการใช้งานโดยเฉลี่ยที่ 2 ถึง 3 ปี ตามแต่ลักษณะของการใช้งานของแต่ละคน ซึ่งก็คงต้องใช้งานให้ถูกวิธีครับ จะช่วยยืด เวลาให้ยาวนานขึ้นไปได้อีกการสำรองข้อมูล

เนื่องจากโน้ตบุ๊กออกแบบมาเพื่อการพกพา ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดการกระทบ หรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจะค่อนข้างสูง ดังนั้นควรจะมี การสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะข้อมูลที่มีความสำคัญ ซึ่งปัจจุบันโน้ตบุ๊กจะติดตั้งคอมโบไดรฟ์มาให้อยู่แล ้ว ดังนั้นการบันทึกข้อมูลลงบนแผ่นซีดีน่าจะเป็นทางเลือ กที่เหมาะสมมากที่สุดครับ ในการสำรองข้อมูลก็ สามารถใช้คำสั่ง Backup ใน Windows XP จัดการได้เลย เข้าไปที่เมนู Start => Programs => Accessories => System => Backup แล้วทำตามขั้นตอนต่างๆ ที่มีหน้าจอแสดงขึ้นมาแนะนำ

>> การทำความสะอาดโน้ตบุ๊ก

การทำความสะอาดควรใช้ผ้าแห้งเช็ดทำความสะอาดโดยรอบตั วเครื่อง ยกเว้นจอภาพที่ควรจะใช้ผ้าหรือวัสดุที่ออกแบบมาเป็นพ ิเศษ จัดการทำความสะอาด ส่วนตรงคีย์บอร์ดที่มักจะมีฝุ่น หรือเศษผงติดเข้าไปด้านใน ไม่ควรใช้วิธีการเป่า แต่ควรใช้วิธีการดูด อาจจะดูดด้วยเครื่องดูดฝุ่นเพื่อช่วยทำความสะอาดก็ได ้เช่นกัน

>> หลีกเหลี่ยงไม่ให้โดนกระแทก

เวลาพกพาโน้ตบุ๊กไปใช้งานตามที่ต่างๆ ควรจะมีการระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะหากเกิดไปกระแทกกับวัสดุอื่นๆ แล้วจะเกิดการ เสียหายที่ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะจอภาพที่มีความบอบบางเป็นพิเศษ ทุกครั้งก่อนนำไปใช้งาน ควรนำใส่กระเป๋าที่ออกแบบมาเพื่อใส่โน้ตบุ๊กโดยเฉพาะ เพราะด้านในจะมีการบุด้วยวัสดุกันกระแทก เวลาเกิดไปกระแทกโดย ไม่ตั้งใจ วัสดุเหล่านั้นจะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้

>> อ่านคู่มือก่อนการใช้งาน

ก่อนการใช้งานทุกครั้ง ผู้ใช้ควรทำความรู้จักโน้ตบุ๊กที่กำลังจะใช้งานให้มา กที่สุด ด้วยการอ่านคู่มือ และคำแนะนำต่างๆ เพื่อการใช้งาน ได้อย่างถูกต้อง และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายในระยะยาว ปกติแล้วคู่มือจะแจ้งรายละเอียดของอุปกรณ์ทุกๆ อย่าง ตำแหน่งของพอร์ต และอุปกรณ์ คำเตือนและคำแนะนำต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ รวมถึงเบอร์โทรสำหรับติดต่อ สอบถามเมื่อโน้ตบุ๊กเกิดปัญหา



:: การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ::

>> เปิดเครื่องไม่ติด

เริ่มต้นจากการตรวจสอบไฟแสดงสถานะเปิดเครื่องก่อนว่า ติดหรือไม่ จากนั้นให้ดูว่าแบตเตอรี่เหลือน้อย หรือหมดแล้วหรือยัง แล้วจึงเสียบปลั๊ก แล้วลองกดปุ่มเปิดใช้งาน ถ้ากดปุ่มเปิดแล้วยังไม่ติด ให้ลองดูว่าคุณเสียบปลั๊กทุกๆ จุดดีแล้วหรือยัง ทั้งที่โน้ตบุ๊ก และช่องเสียบปลั๊กไฟ ถ้าตรวจสอบทั้งหมดแล้ว ยังเปิดไม่ติดให้รีบติดต่อไปยังศูนย์บริการทันที

>> จอภาพมีจุดสีสว่าง

จอภาพโน้ตบุ๊กอาจจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า Dead Pixel หรือ Bright Dot ขึ้น อันเนื่องมาจากข้อผิดพลาดในกระบวนการผลิตจอแอลซีดี ซึ่งเมื่อเกิดแล้ว คุณควรจะตรวจสอบก่อนว่ามีจำนวนจุดสีที่ผิดปกตินี้กี่ จุด แล้วให้ติดต่อศูนย์บริการว่าสามารถเปลี่ยนหรือแก้ไขไ ด้หรือไม่ ปกติแล้วจะมีข้อกำหนดเอาไว้ว่า หากมี Dead Pixels จำนวนกี่จุด ถึงจะเปลี่ยนได้ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 5 จุดขึ้นไป ดังนั้นหากไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ควรจะสำรวจจอแอ ลซีดีก่อนรับเครื่องทุกครั้งครับ

>> จอภาพแสดงตัวอักษรเบลอ

เกิดมาจากการปรับความละเอียดของจอแอลซีดีไม่ตรงตามสเ ปกที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นข้อจำกัดของจอแอลซีดีที่เราต้องปรับความละเอ ียดให้ตรง เพราะว่าจอแอลซีดีจะระบุจำนวนพิกเซลที่เอาไว้แสดงทั้ งแนวตั้งและแนวนอนเอาไว้ หากปรับไม่ตรง จอภาพจะต้องมีการนำจุดสีหลายๆ จุดมาแสดงเป็นจุดเดียว ทำให้ภาพเกิดความเบลอ ปกติแล้วทั่วๆ ไปจะปรับตั้งกันไว้ที่ 1024768 พิกเซล สามารถเข้าไปปรับได้ที่ Start => Settings => Control Panel => Display คลิ้กที่แถบ Settings แล้วเลือกปรับความละเอียดได้เลยครับ

>> จอภาพแสดงตัวอักษรเบลอ

เกิดมาจากการปรับความละเอียดของจอแอลซีดีไม่ตรงตามสเ ปกที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นข้อจำกัดของจอแอลซีดีที่เราต้องปรับความละเอ ียดให้ตรง เพราะว่าจอแอลซีดีจะระบุจำนวนพิกเซลที่เอาไว้แสดงทั้ งแนวตั้งและแนวนอนเอาไว้ หากปรับไม่ตรง จอภาพจะต้องมีการนำจุดสีหลายๆ จุดมาแสดงเป็นจุดเดียว ทำให้ภาพเกิดความเบลอ ปกติแล้วทั่วๆ ไปจะปรับตั้งกันไว้ที่ 1024768 พิกเซล สามารถเข้าไปปรับได้ที่ Start => Settings => Control Panel => Display คลิ้กที่แถบ Settings แล้วเลือกปรับความละเอียดได้เลยครับ

>> ตัวอักษรที่แสดงมีขนาดเล็กเกินไป

จากข้อจำกัดในการปรับความละเอียด ทำให้บางครั้งตัวอักษรที่แสดงเล็กเกินไป จะมีปัญหากับผู้ที่สายตาสั้นเป็นส่วนใหญ่ แต่ใน Windows เราสามารถปรับขนาดตัวอักษรให้ใหญ่ได้ครับเข้าไปที่ Start => Settings => Control Panel => Display คลิ้กที่แถบ Appearance แล้วปรับขนาดที่ Font ด้านล่าง ให้เป็น Large Fonts หรือ Extra Large Fonts

>> ต่อโน้ตบุ๊กเข้ากับทีวี แล้วไม่มีภาพ

ก่อนจะไปปรับให้แสดงภาพไปยังทีวี ผู้ใช้ควรเชื่อมต่อสายระหว่างทีวีกับ S-Video พอร์ตเสียก่อน แล้วค่อยเปิดโน้ตบุ๊ก จากนั้นก็ไปปรับให้แสดงผลได้ใน Display Properties

>> ลำโพงไม่มีเสียง

ให้เข้าไปตรวจสอบว่าได้ไปปิดเสียงเอาไว้หรือเปล่า อาจจะกดปุ่มเปิดเสียงจากคีย์บอร์ด หรือว่าเข้าไปที่ Start => Settings => Control Panel => Sound and Audio Devices ตรงส่วนของ Devices Volume นั้นจะต้องไม่มีเครื่องหมายถูกที่หน้า Mute ถ้ามีให้คลิ้กเพื่อเอาออก ในบางกรณีอาจจะเกิดจากการหลงลืมของผู้ใช้เอง บางครั้งอาจจะเสียบหูฟังคาเอาไว้ หรือว่าเสียบแจ็คลำโพงภายนอกอยู่ ทำให้ไม่มีเสียงออกมาที่ลำโพงของตัวโน้ตบุ๊ก ก็คงต้องบอกว่าตรวจสอบให้ดีก่อนนะครับ

>> เครื่องหยุดทำงาน (แฮงค์) บ่อยมากๆ

ปกติอาการเครื่องแฮงค์มักจะมาจากเรื่องของความร้อน เพราะถ้าร้อนมากๆ ซีพียูและอุปกรณ์ต่างๆ มักจะหยุดการทำงาน ตรงจุดนี้เอง อาจจะมาจากการใช้งานที่ไม่ถูกต้อง เช่น การวางโน้ตบุ๊กในที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก การวางโน้ตบุ๊กในตำแหน่งที่มีการปิดบังช่องระบายความ ร้อน เป็นต้น

นอกจากนี้อาจจะมีจากความผิดปกติของระบบปฏิบัติการที่ ใช้อยู่ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งคงต้องตรวจสอบไปทีละอุปกรณ์ หรือถ้าไม่มี ความรู้ในการตรวจสอบสามารถเลือกที่จะนำไปรับบริการที ่ศูนย์บริการได้

>> เครื่องทำงานช้า

ปกติเมื่อเราใช้งานไปสักระยะเครื่องมักจะทำงานช้าลง เพราะว่าเราได้ติดตั้งโปรแกรมต่างๆ หรือมีการบันทึกไฟล์ต่างๆ เข้าไปเป็นจำนวนมาก เวลาเรียกเพื่อเปิดใช้งานจะต้องใช้เวลาค้นหาเพื่อเปิ ดอ่านข้อมูลที่นานขึ้น เพราะไฟล์ต่างๆ อาจจะมีการจัดเก็บที่ค่อนข้างกระจัดกระจาย การจัดเรียงข้อมูลต่างๆ ให้เป็นระเบียบจะช่วยให้การใช้งานในส่วนต่างๆ ทำได้เร็วขึ้น ซึ่งก็คือการ Defragment นั่นเอง ให้เข้าไปที่ Start => Programs => Accessories => System Tools => Disk Defragmenter แล้วจัดการเรียงข้อมูลต่างๆ ให้เรียบร้อย

นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้เครื่องทำงานได้ช้า ก็อาจจะมาจากการที่ผู้ใช้เรื่องติดตั้งโอเอส หรือโปรแกรมใหม่ๆ ที่โน้ตบุ๊กไม่สามารถรองรับได้ ทำให้การทำงานต่างๆ ช้าไปหมด อาจจะแก้ปัญหาด้วยการซื้อเครื่องใหม่ หรือว่าจะอัพเกรดอุปกรณ์บางอย่าง เช่น ซีพียู หน่วยความจำ หรือฮาร์ดดิสก์ที่มีความเร็วสูงขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก http://notebookspec.com/vbforum/forum/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B0-%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-notebook-aa/shopping-guide-aa/13695-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99-notebook-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2 ของคุณ vinai55